ผู้สูงอายุ เป็นวัยที่จะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด อันเนื่องมากจากความเสื่อมของร่างกายที่เป็นไปตามวัย ผู้สูงอายุหลายคน พออายุมากขึ้น ก็มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย การเคลื่อนไหวช้าลง ทำให้การทำกิจกรรมหรือการใช้ชีวิตประจำวันเป็นเรื่องยากลำบากมากขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้จัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่นอกเหนือจากโรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุไม่ให้ถดถอยลงได้
ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุทำได้อย่างไร
วิธีการดูแลผู้สูงอายุที่เราจะกล่าวถึงเป็นวิธีการดูแลซึ่งเกิดจากความชราภาพส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆในร่างกายเสื่อมลง โดยวิธีการดูแลสุขภาพ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ คือ
การดูแลสุขภาพตา
นอกจากวัยที่เพิ่มขึ้นแล้ว โรคต่างๆที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ ภาวะตาแห้ง ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อมและโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการมองเห็นที่ลดลง
- ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพราะ การตรวจพบในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เพิ่มผักและผลไม้ในแต่ละมื้ออาหารให้กับผู้สูงอายุในปริมารที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- เมื่อต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดที่จ้า ควรให้ผู้สูงอายุสวมแว่นตากันแดด เพื่อเป็นการถนอมดวงตา
การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน
- ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันล่ะ 2 ครั้ง นานประมาณ 2 นาทีทั้งเช้าและเย็น รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมอื่นๆที่เหมาะสม เช่น ไหมขัดฟัน และควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีล่ะ 1 ครั้ง
- สำหรับผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอมทั้งแบบชนิดที่ถอดได้และชนิดติดถาวร หลังรับประทานอาหารทุกมื้อ ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้ง ฟันปลอมแบบชนิดที่ถอดได้ ให้ถอดฟันปลอมออกมาทำความสะอาด โดยใช้แปรงสีฟันขนอ่อนกับน้ำสบู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ส่วนฟันปลอมชนิดที่ติดแน่นให้ใช้ไหมขัดฟันสอดเข้าไปทำความสะอาดในบริเวณใต้ฟันและขอบเหงือก
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณของน้ำตาล รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
การดูแลสุขภาพในการขับถ่ายและปัสสาวะ
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาในเรื่องของระบบการขับถ่าย ซึ่งเกิดได้จากหลายๆปัจจัย เช่น ภาวะท้องผูก อาการท้องอืดหรือกรดไหลย้อน รวมถึงการรับประทานยาบางชนิด
- รับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้น เช่น ผักและผลไม้สด ธัญพืชต่างๆถั่ว ลูกพรุน เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย
- ฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นเวลา
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม เครื่องเทศ อาหารที่มีรสจัด และอาหารที่ย่อยยากหรืออาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน
- เคลื่อนไหวร่างกายด้วยการออกกำลังกายเบาๆ อย่าง การเดิน การทำความสะอาดบ้านเล็กๆน้อยๆ การรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น
การเรียนรู้ เข้าใจปัญหาและรู้จักวิธีการดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ และนอกจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว การดูแลสุขภาพจิตก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากสุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็จะดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน